ICT IN ORGANIZATION: ICT IN ORGANIZATION

กล่าวสวัสดีผู้ที่อ่านบล็อกที่ผมเขียนขึ้นมา แต่ก่อนที่ผมจะเข้าเนื้อหานั้น ผมขอแนะนำตนเองก่อน ผมชื่อ นาย กล้าหาญ บุญจันทร์ นักศึกษาชั้นปีที่1วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เนื้อหาในวันนี้ที่ผมจะมาเขียนให้ผู้อ่านทุกท่านได้ทราบ นั้นก็คือ “ICT in organization” หรือชื่อในภาษาไทยนั้นก็คือ “ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กร” ซึ่งองค์กรที่ผมเลือกนั้นคือ “องค์กรทหาร”(ของภาครัฐ) เนื่องจากพ่อของผมประกอบอาชีพ รับราชการทหาร อยู่ ฉก.อโณทัย ปัตตานี สังกัด มทบ.33 ทำหน้าที่เกี่ยวกับ การส่งกำลังบำรุง ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากที่จำเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่พ่อผมทำงานอยู่ ...

แน่นอนครับ ในปัจจุบันนั้น ต้องยอมรับเลยว่าเทคโนโลยีต่างๆมีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก ทุกๆวันเราอยู่กับเทคโนโลยีโดยไม่รู้ตัว แต่ผมรับประกันได้เลยว่า ทุกวันนี้ ทุกคน จะต้องมีส่วนที่ใช้เทคโนโลยีไม่มากก็น้อยครับ และเทคโนโลยีที่ใช้กันอยู่ทุกๆวันจนเรารู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราไปแล้ว นั้นก็คือ ICT ครับ หลายคนอาจสงสัย ? หลายคนอาจไม่เข้าใจ ว่า ไอ้ICTนี่มันคืออะไร

ICT คือ INFORMATION and COMMUNICATION TECHNOLOGY

ชื่อภาษาไทยคือ เทคโนโลยีสารสนเทศนั้นเองครับ อ่าว !? แล้วเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไรอีกล่ะ ?? มันก็คือเทคโนโลยีที่ช่วยในการรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบ จัดหมวดหมู่ เรียงลำดับ สรุป คำนวณ จัดเก็บ ค้นคืน จัดทำสำเนา และแพร่กระจาย หรือสื่อสาร ข้อมูล ทำให้ข้อมูลกลายเป็นสารสนเทศที่ดี มีความถูกต้อง ตรงตามความต้องการ และเกิดคุณค่าต่อผู้ใช้

หากผมนิยามให้พอสังเขปท่านผู้อ่านอาจจะเข้าใจอยู่บ้าง แต่... แล้วสารสนเทศคืออะไรอีกล่ะ ???

สารสนเทศคือ ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการ วิเคราะห์ ประมวลผลมาแล้ว ทำให้ง่ายต่อการใช้ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น

1+1 = ? นี่คือข้อมูล แต่ถ้าหากเป็น 1+1 = 2 นี่คือสารสนเทศ

ดังนั้น หากนิยามในแบบฉบับของผม(ซึ่งผมหวังว่าท่านผู้อ่านจะเข้าใจ) ICT คือ

เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลที่วิเคราะห์มาแล้ว ให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นระเบียบ ง่ายต่อการดึงไปใช้ แก้ไข ปรับปรุง อัพเดต

แน่นอนว่าทุกๆวันนี้ เรามีการรับข้อมูลใหม่ๆรอบตัวเราเป็นอย่างแน่นอน “ข้อมูล” มีอยู่รอบตัวเรา และมีอยู่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การที่เราตื่นมาและเปิดทีวีรับข้อมูลข่าวสารตอนเช้า การที่สำนักทะเบียนมช.ได้เปิดระบบให้นศ.ลงทะเบียนเรียนวิชาผ่านinternet การที่โรงพยาบาลบันทึกข้อมูลผุ้ป่วย ประวัติผู้ป่วยที่เคยมาใช้บริการตลอด 2 ปีที่ผ่านมา การที่สถานศึกษาสอนหนังสือให้แก่นักเรียนบนถิ่นทุรกันดารผ่านทีวีดาวเทียม หรือแม้กระทั่ง การที่เราเปิดเฟสบุ๊คและแชทกับเพื่อนก็เกี่ยวกับ ICT เช่นกัน !!! จากที่ผมยกตัวอย่างมานี่เป็นแค่ส่วนน้อยที่ ICT มีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา ยังมีอีกส่วนมาก และ หลากหลาย ที่ผมยังไม่ได้กล่าวถึง …

แต่สิ่งที่ผมกล่าวยกตัวอย่างมานั้น เป็นเพียงแค่ระดับบุคคล แต่หากท่านผู้อ่านลองนึกถึงระดับ องค์กร หรือระดับประเทศดูสิครับ มันจะมีความสำคัญมากขนาดไหน

“นักเรียนทั่วประเทศไทย log in เข้าดูผลสอบ O-NET”

“การประชุม Asian video conference”

“สมัครสอบรับตรง จุฬา ปีการศึกษา 2557 “

แค่สองตัวอย่างนี้ก็ทำให้ท่านผู้อ่านเห็นได้เลยว่า ICT มีความสำคัญมาก แต่จะมากขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้ในองค์กร หรือในชีวิตประจำวันเราครับ

ผมอยากให้ผู้อ่านลองนึกดูนะครับ ว่าICT นี้มีบทบาทกับเราในช่วงเวลาในของวันบ้างสำหรับผม คือ...

การตื่นขึ้นมาตอนเช้า ล้างหน้าแปรงฟัน อ่านหนังสือพิมพ์ ดูทีวี ออกจากบ้านมาและดูว่าจารย์งดseg.

หรือเปล่านะ ผมก็เลยเปิดดูfacebook ดูปรากฏว่า ไม่งด (เศร้าเลย) แต่อาจารย์บอกให้ผมเข้าไปในสำนักทะเบียนเพื่อดูว่าseg. ที่ผมเรียนนั้นมีการย้ายห้องเรียน ไปอยู่ตึกHB เมื่อผมรู้ที่เรียนผมจึงบึ่งรถไปเรียน และคาบนั้นเองที่อาจารย์สั่งงาน ICT in ORGANIZATION ให้ผมส่งภายในเย็นนี้ ในwebsite ของอาจารย์เอง โดยมีการแบ่งเป็นส่วนๆไว้ ดังนั้น ทั้งช่วงบ่ายผมจึงขลุกอยู่แต่ในห้องสุดของวิทยาลัยผมเอง หาข้อมูล สารสนเทศ ที่เป็นทั้ง วิดีโอ หนังสือ สื่อต่างๆ มาประกอบรายงานของผม และเมื่อผมทำเสร็จ ก็ส่งในwebsite ของอาจารย์เอง เมื่อเสร็จงาน เสร็จเรียน เสร็จเล่น ผมจึงขับรถกลับบ้านอย่างไม่รีบร้อนรนอะไร แต่ก่อนนอนนั้น ผมไม่ลืมที่จะเช็คfacebook และคุยกับอาจารย์ว่า งานที่ผมส่งไปนั้น ท่านได้รับหรือไม่ ...

จากชีวิตประจำวันของผม (ที่ปนโม้มาบ้าง) แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ICT นั้น มีความสำคัญกับการทำรายงานของผมเป็นอย่างมากในเรื่องสืบค้นข้อมูล หาข้อมูล หาสารสนเทศที่ใช้ได้จริงมาทำรายงานผม

ด้วยความสำคัญของ “ICT” ไม่ได้อยู่ที่ตัวของมันเอง แต่มันอยู่ที่ “ข้อมูล และ สารสนเทศ” ดังนั้น หากเราจัดการในเรื่องของ ICT ได้ดีแล้วนั้น “อำนาจในการตัดสินใจ” ที่ได้จาก “สารสนเทศ” จะมีมากมายจนท่านผู้ชมไม่อาจมองข้ามได้เลยครับ เพราะเมื่อเรารู้ข้อมูลมากกว่าคู่แข่งของเรา (ไม่ว่าจะเป็นในบทบาทไหน หรือ องค์กรรูปแบบไหน) การตัดสินใจของเราจะเฉียบขาดกว่าเนื่องด้วยเพราะเรามองเห็นจุดดี จุดด้อย ความเสี่ยง ความได้เปรียบ จากข้อมูลที่เรานำมาประกอบการตัดสินใจ ด้วยความสำคัญของข้อนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแวดวงธุรกิจ เป็นอย่างมาก เพราะ การตัดสินใจ เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ และ ข้อมูลนั้น ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่อยู่ในการตัดสินใจเช่นกัน ดังนั้น ด้าน ICT ในองค์กรธุรกิจต่างๆ จึงมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ทำให้ในแต่ล่ะองค์กรมีการพัฒนาด้าน ICT ของตนเอง เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจ ทำให้องค์กรตนเองนั้น มีความสามารถทางด้านการตัดสินใจ ที่เหนือกว่าคู่แข่ง

ในส่วนของประสบการณ์ตัวผมเองนั้น เมื่อได้เข้ามาปี 1 วิทยาลัยสื่อ มช. ตัวผมเองได้เรียนวิชา intro to BA ซึ่งเป็นวิชาที่ว่าด้วยการเริ่มต้นเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ เมื่อผมได้เรียนไป สิ่งที่ผมสังเกตเห็นนั้นก็คือ ในเนื้อหาที่ผมได้เรียนนั้น มีเรื่องที่เกี่ยวกับ ICT ด้วย ซึ่งนี่เป็นการตอกย้ำครั้งสำคัญที่ทำให้ผมได้เห้นว่า ICT ในองค์กรนั้น มีความสำคัญไม่แพ้ด้านอื่นๆขององค์กรเลย

ในทุกองค์กรนั้นย่อมมี ICT อยู่ แต่องค์กรที่ผมสนใจเป็นพิเศษ ที่มีด้าน ICT อยู่นั้นก็คือ “องค์กรทหาร” ครับ หากผมเอ่ยถึงองค์กรทหารนั้น ทุกคนอาจจะต้องนึกถึงชื่อหน่วยต่างๆ ที่ย่อจนปวดหัว และยศต่างๆ แต่สำหรับผม ถ้าผมนึกถึงองค์กรทหารในด้าน ICT โดยเฉพาะของไทยเรา ไม่แพ้ชาติต่างๆเลยครับ

และนี่คือหน่วยงานทหารส่วนหนึ่งที่ผมยกตัวอย่างเพื่อทำให้ท่านผู้อ่านเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นนะครับ

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)

กรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศกลาโหม (กสอ.กห.)

กรมการสื่อสารทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย

กรมการสื่อสารทหาร (สะพานแดง)

กรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ

กรมสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทหารอากาศ

สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

นี่คือหน่วยงานส่วนหนึ่ง ที่อยู่ในองค์กรทหารครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการข้อมูล สารสนเทศ ที่เข้ามาภายในองค์กร หรือดูแลข้อมูล สารสนเทศ ภายในองค์กร ซึ่งมีผลต่อความมั่นคงของประเทศครับ ความเฉพาะเจาะจงของหน้าที่หรือรูปแบบนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ดูแลในส่วนนั้นๆครับ เรามาดูกันดีกว่าครับ ว่าในแต่ล่ะหน่วยงานขององค์กรทหาร(ไทย)ที่ผมได้ยกตัวอย่างนั้น มีหน้าที่ บทบาท วิสัยทัศน์ อย่างไรกันบ้างครับ

1.)กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (MICT = Military Information Communication Technology)

กันเลยครับ

พันธกิจ

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

พันธกิจประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556-2559

1. เสนอแนะนโยบาย จัดทำยุทธศาสตร์และแผนด้าน ICT ข้อมูลสถิติ และระบบการเตือนภัยพิบัติเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

2. พัฒนาและบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT ด้วยระบบความมั่นคงปลอดภัยที่ทันสมัยให้กระจายไปสู่ประชาชนทั่วประเทศ อย่างทั่วถึง มีประสิทธิภาพ

3. ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการใช้ ICT ในทุกภาคส่วน เพื่อการพัฒนาประเทศ อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีประสิทธิภาพ

4. ส่งเสริมและพัฒนา ICT เพื่อการอุตุนิยมวิทยา และการเตือนภัยพิบัติอย่างบูรณาการ ให้มีประสิทธิภาพ ทันต่อเหตุการณ์

5. ส่งเสริม และสนับสนุนการนำข้อมูลสถิติและสารสนเทศมาใช้เพื่อการพัฒนาประเทศ

6. ส่งเสริมและพัฒนาประเทศสู่สังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ มีบทบาทด้าน ICT และแข่งขันได้ในระดับประเทศและระหว่างประเทศ

7. ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาบุคลากรด้าน ICT และประชาชนให้มีความรู้ความสามารถ ในการสร้างสรรค์ ผลิต และ ใช้ ICT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม ถูกต้อง เหมาะสมและรู้
เท่าทัน

8. ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาด้าน ICT เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันด้านอุตสาหกรรม ICT ของประเทศไทย

9. ติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนา ICT ของประเทศ

2.)กรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศกลาโหม

วิสัยทัศน์

เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศของ กลาโหม เพื่อสนับสนุนการบริหารงานทั่วไปของกลาโหมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและกิจการอวกาศภายในกลาโหมอย่างเป็นรูปธรรมตามยุทธศาสตร์การพัฒนากลาโหมอีเล็กโทรนิกส์ และแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกลาโหม โดยมุ่งเน้นให้เกิดการบูรณาการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกลาโหม

3.) กรมการสื่อสารทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย

กรมการสื่อสารทหาร มีหน้าที่

          ๑. พิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับนโยบาย
          ๒. วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับดูแลและดำเนินการเกี่ยวกับระบบควบคุมบังคับบัญชา การสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ การสงครามอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศทางการทหาร
          ๓. เป็นศูนย์วิทยาการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของกองทัพไทย ตลอดจนการส่งกำลังบำรุงสิ่งอุปกรณ์สายสื่อสารให้กับกองบัญชาการกองทัพไทย
          ๔. มีเจ้ากรมการสื่อสารทหารเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

4.) กรมการสื่อสารทหาร (สะพานแดง)

๑.ภารกิจมีหน้าที่

๑.๑ วางแผนอำนวยการประสานงานแนะนำกำกับการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการผลิตจัดหา ส่งกำลัง ซ่อมบำรุงบริการในกิจการของเหล่าทหารสื่อสาร อุปกรณ์สายสื่อสาร

๑.๒ วางแผน อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ วิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการสื่อสาร กิจการโทรคมนาคมคอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ทั้งปวง สนับสนุนระบบควบคุมบังคับบัญชา และการสื่อสาร ตลอดจนการสงครามข่าวสารของกองทัพบก

๑.๓ กำหนดหลักนิยมและทำตำรา ตลอดทั้งการฝึกและศึกษา ทั้งนี้ เกี่ยวกับกิจการ และสิ่งอุปกรณ์ของเหล่าทหารสื่อสาร เจ้ากรมการทหารสื่อสารผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

5.) กรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ

พันธกิจ

๑. พัฒนาเครือข่ายสื่อสารและสารสนเทศให้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการของกองทัพเรือ

๒. พัฒนาระบบควบคุมบังคับบัญชา และสั่งการ ตามแนวคิดการบังคับบัญชาเป็นพื้นที่ Area Command Concept

๓. พัฒนาระบบตรวจการณ์ ระบบเฝ้าตรวจ และพิสูจน์ฝ่าย

๔. ปรับปรุงและพัฒนาฐานข้อมูลให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ในเครือข่าย Intranet

๕. ปรับปรุงและพัฒนาขีดความสามารถทางด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์และสงครามสารสนเทศ

๖. พัฒนาระบบสารสนเทศสนับสนุนการบริหารจัดการ

๗. พัฒนาบุคลากรให้เป็นมืออาชีพ ทำงานเป้นทีม และมีทัศนคติที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์

6.) กรมสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทหารอากาศ

กรมสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทหารอากาศ มีหน้าที่ วางแผนการปฏิบัติ อำนวยการ ประสานงาน ติดตาม กำกับดูแล พัฒนาและดำเนินการเกี่ยวกับกิจการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ กิจการกระจายเสียง และกิจกรรมโทรทัศน์ มาตรวิทยา การพัสดุสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์จะมีหน้าที่จัดการความรู้ ควบคุม ประเมินผล และตรวจตรากิจการสายวิทยาการด้านสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์มีเจ้ากรมสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทหารอากาศ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

7.) สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

ประวัติ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ได้มีการแบ่งส่วนราชการใหม่ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2548 เรียกว่า สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกอบด้วย 4 กองบังคับการ และ 1 กองกำกับการ ได้แก่

· ฝ่ายอำนวยการ (กองกำกับการ)

· ศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี

· ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศกลาง

· กองตำรวจสื่อสาร

· กองทะเบียนประวัติอาชญากร

ต่อมา เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2552 ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างใหม่อีกครั้งโดยได้มีการ แบ่งกองบังคับการใหม่ ออกเป็น 4 กองบังคับการ ดังนี้

· กองบังคับการอำนวยการ

· กองบังคับการตำรวจสื่อสาร

· กองบังคับการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศกลาง

· กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี

ซึ่ง ในกองบังคับการที่อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนี้ จะดูแลเกี่ยวกับการบริหาร การเก็บข้อมูล และจัดการข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

จากทั้งหมดที่ผมค้นคว้ามา นี่คือข้อมูลส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ICT นั้น มีความสำคัญในทุกๆองค์กร ไม่เว้นแม้กระทั่งหน่วยงาน หรือ องค์กรของทหารครับ

ในส่วนสุดท้ายนี้ ก็คงจะเป็นส่วนที่แสดงความคิดเห็น แต่เนื่องด้วยผมได้แสดงความคิดเห็นสอดแทรกในเนื้อหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมจึงขอนำความคิดเห็นของพ่อผมครับ พ.อ. ทวีป บุญจันทร์ ครับ (ตัดมาบางส่วนครับ)

“ในความคิดเห็นของผม(พ่อผม)แล้วนั้น ICT ในองค์กรทหารถือมีความสำคัญมากๆครับ เพราะเนื่องด้วยเกี่ยวกับการจัดการข้อมูล จัดเก็บข้อมูล การปฏิบัติการทางข้อมูล รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์ ถือเป้นเรื่องสำคัญมากๆครับ ในหน่วยทหารนั้น นอกจากจะมีหน่วยรบ หน่วยช่วยรบแล้ว ยังมีหน่วยส่งกำลังบำรุงด้วย ดังนั้น ICT จึงมีบทบาทในการช่วยเหลือในด้านข้อมูลเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทหารในหน่วยรบ หรือช่วยรบ ก็มีความสำคัญเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ในด้านหน่วยรบ จะต้องรู้ทันข้อมูลของข้าศึก หรือแม้กระทั่งปล่อยข่าวลวงเพื่อทำให้ข้าศึกไขว่เขว หน่วยช่วยรบก็เช่นกัน มีหน้าที่สนับสนุนหน่วยรบโดยในส่วนนี้ จะมีการ IO (information operation)หรือ ปฏิบัติการทางข้อมูล ทั้งของเราและของข้าศึก ซึ่ง IO นี้ เกี่ยวกับการหาข่าว เพื่อมาประกอบกับการปฏิบัติการในพื้นที่ต่างๆ ทั้งของเราและของข้าศึก และอาจมีการปล่อยข่าวลวงเพื่อทำให้ข้าศึกไขว้เขวและเข้ายึดตีข้าศึกได้ ในส่วนนี้ยังมีการนำข่าวที่ได้จาก IO มาส่งต่อให้หน่วยรบ เพื่อประกอบการตัดสินใจของการปฏิบัติการในหน่วยรบ เพื่อให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด ละในส่วนสุดท้าย หน่วยส่งกำลังบำรุง(ที่พ่อผมทำงานอยู่)ใช้ ICT ช่วยในการติดต่อสื่อสาร การบันทึกข้อมูลต่างๆ การจัดทำบัญชีอุปกรณ์ เก็บข้อมูลการส่งกำลังบำรุง และ การประชาสัมพันธ์ ซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญในด้านส่งกำลังบำรุง ที่ ICT มีบทบาทเป็นอย่างมาก ดังนั้น ผมจึงสรุปได้ว่า ICT นั้น มีความสำคัญในหน่วยงานด้านทหารเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้การปฏิบัติการรบนั้น เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง เฉียบขาด และฉับไวมากขึ้น “

และนี่คือความคิดเห็นของพ่อผมครับ ทางผม ผุ้จัดทำบล็อกนี้ ก็หวังว่า ท่านผู้อ่านจะได้รับความรู้และมุมมองเกี่ยวกับ ICT จากบล็อกผมไม่มากก็น้อยนะครับ หากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามผมได้โดยโพสทิ้งไว้ในบล็อกนี้นะครับ ขอบพระคุณที่ติดตามครับ

รูปภาพที่เกี่ยวกับ ict in military organization